รีวิวรถไฟตู้นอน โบกี้สำหรับผู้หญิงและเด็ก

รีวิว รถไฟตู้นอน

** รถไฟตู้นอนที่รีวิว เป็นรถนอนปรับอากาศชั้น 2 และเป็นโบกี้สำหรับผู้หญิงและเด็กนะคะ **

อยากเดินทางด้วยรถไฟตู้นอน มานานมากกก แต่ดั๊นนนมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับผู้หญิงออกมา กลัว ๆ ก็เลยอดยาว ๆ โชคดีที่พี่ลาเต้แนะนำ ว่ารถไฟใหม่ดีนะ มีโบกี้สำหรับผู้หญิงด้วย

รถไฟตู้นอนใหม่ เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2559 มีไม่กี่เส้นทาง หนึ่งในนั้นคือเส้นทาง กรุงเทพ – หนองคาย

จองตั๋วรถไฟ

วิธีจองตั๋วรถไฟก็แสนง่าย เพราะสามารถจองผ่านเว็บไซต์ https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/  ได้เลย ก็เปิดตัวมาพร้อม ๆ กับตู้นอนนั่นแหละ

รถไฟตู้นอนใหม่ จะเป็นประเภทด่วนพิเศษ เส้นทาง กรุงเทพ-หนองคาย มีวันละ 2 เที่ยว คือ ออกจากกรุงเทพ เวลา 20.00 น. และออกจากหนองคาย เวลา 19.10 น. (รถไฟออกตรงเวลามาก เพราะเมย์ไปไม่ทันมาแล้ว ** ออกตรง แต่ถึงเลทนะ **)

เส้นทางกรุงเทพ – หนองคาย มี 2 ราคา คือ เตียงบน 748 บาท เตียงล่าง 838 บาท ปัจจุบันขึ้นราคา 150 บาท เป็นเตียงบน 998 บาท และเตียงล่าง 898 บาท (อัพเดตล่าสุดวันที่ 4 พฤษภาคม 2561)

สามารถชำระเงินได้ทั้งบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ชำระเงินเสร็จจะมีตั๋วเดินทางเข้า Email ที่เรากรอกข้อมูลไว้ สามารถปริ้นท์แล้วรอวันเดินทางได้เลย ไม่ต้องไปขึ้นตั๋วอะไรอีกแล้ว

รถไฟตู้นอน

สภาพภายนอกรถไฟไม่ได้ดูสะดุดตามาก แต่ถ้าเข้าไปดูใกล้ ๆ แต่ละโบกี้จะมีจอ LED บอกข้อมูลขบวนและโบกี้ติดอยู่ใกล้ ๆ ประตูทางขึ้น

เมื่อก้าวขึ้นมาแล้ว ตื่นตาตื่นใจมาก ไม่คิดว่ารถไฟไทยจะสวยขนาดนี้ โดดเด่นด้วยโทนสีขาว-แดง สะอาด และไม่มีกลิ่นอับ

ขึ้นมาบนโบกี้แล้ว ก็เดินหาเตียงของเราได้เลย โดยเตียงล่างจะเป็นเลขคู่ และเตียงบนจะเป็นเลขคี่

บางขบวนเตียงจะถูกปูไว้แล้ว แต่ถ้าไม่ ก็นั่งไปก่อน เดี๋ยวมีพนักงานผู้หญิงมาปูเตียงให้ เมื่อได้เตียงนอนมาแล้ว ผ้าห่มอุ่น ๆ และน้ำดื่มจะตามมา

พนักงานบริการประจำโบกี้นี้เป็นผู้หญิง แต่พนักงานตรวจตั๋วเป็นผู้ชาย (ก็ต้องตรวจทุกตู้นี่เนอะ) วิธีตรวจตั๋วก็ง่าย ๆ ยื่นตั๋วที่เราปริ้นท์มาจากบ้านให้พนักงานได้เลย ไม่ต้องแนบหลักฐานใดใดทั้งสิ้น แล้วพี่เขาจะใช้ตุ๊ดตู่เจาะเป็นสัญลักษณ์ว่าตรวจแล้ว

ทุกครั้งที่เดินทางด้วยรถไฟ เมย์จะทานอาหารก่อน หรือไม่ก็ต้องพกขนมติดกระเป๋าไว้ ดังนั้น พอตรวจตั๋วเสร็จปุ๊บ เมย์ก็จะปิดผ้าม่านเลย ทำให้ยังไม่มีโอกาสได้เดินไปโบกี้อาหาร

ผ้าม่านรถไฟจะเป็นตะขอเกี่ยว เวลารูดม่านจะไม่ไหลลื่นเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ใช่เพราะรางม่านเชื่อมกับเหล็กกั้นเตียงบน ก็อาจเป็นเพราะตะขอหลุดออกจากราง

เฮ้ย ! แต่เท่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว เวลาจะปิดม่านสร้างพื้นที่ส่วนตัว ก็ค่อย ๆ ขยับผ้าม่านไปเรื่อย ๆ เมื่อปิดม่านสนิทแล้ว เมย์ชอบเหน็บชายม่านไว้ใต้เบาะนอนด้วย กลัวหลับ ๆ อยู่แล้วม่านเปิด

เบาะไม่นุ่มเหมือนรถทัวร์ แต่ถ้าเปรียบเทียบเรื่ององศาการนอน เมย์ชอบรถไฟตู้นอนมากกว่า

เตียงล่าง กว้างดี มีที่เก็บของข้างเตียง หลับสบาย เตียงบน แคบกว่า ที่กั้นกันตกไม่สูงมาก (กลัวตกเหมือนกัน) และนอนติดกับหลอดไฟที่ต้องเปิดไว้ตลอดทั้งคืน นอนหลับไม่สนิท

นอนรถไฟไม่เสียงดังอย่างที่คิด แต่ถ้านอนเล่นโทรศัพท์ก็ชวนอ้วกเหมือนกัน

ผ้าห่มผ้าขนหนู แกะออกจากห่อจะยังอุ่น ๆ ผืนใหญ่พอที่เมย์จะห่มได้สบาย ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นผู้ชายตัวใหญ่จะห่มพอไหม (ทุกโบกี้น่าจะใช้ผ้าห่มแบบเดียวกัน)

อากาศในโบกี้หนาวมากกกก ! แค่ผ้าห่มที่จัดเตรียมไว้ให้ไม่พอ แนะนำให้เตรียมเสื้อแขนยาวไปด้วย

โบกี้นี้เปิดไฟไว้ทั้งคืน

ห้องน้ำบนรถไฟตู้นอน

ห้องน้ำบนรถไฟตู้นอน จะอยู่ด้านใดด้านนึงของโบกี้ กั้นด้วยประตูใส ถ้าจะเปิดก็กดที่ปุ่มสีเขียว

ลักษณะห้องน้ำคล้ายเครื่องบิน มีครบทั้งชักโครก สายฉีดชำระ กระดาษชำระ อ่างล้างมือ น้ำยาล้างมือ และกระดาษเช็ดมือ แต่จะมีขนาดเล็กกว่า

ข้างห้องน้ำยังมีอ่างล้างหน้าและกระจก สำหรับคนที่ต้องการล้างหน้าแปรงฟันด้วย ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ ยังอยู่ในสภาพที่ใหม่ สะอาด ปราศจากกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

เมื่อใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง จะมีเสียงประกาศ แล้วก็มีเสียงพนักงานเดินแจ้งอีกที ซึ่งดี แต่แบบ ได้ยินทั้งคืน บางทีก็ไม่กล้านอนเต็มอิ่ม กลัวไม่ได้ยินเสียงปลุก

ใกล้ถึงสถานีปลายทาง (หลังจากที่เราตื่น) พนักงานจะทยอยเก็บเตียง ซึ่งตอนนี้ก็อาจจะมีพนักงานชายเดินเข้ามาเม้าท์มอยระหว่างพนักงานหญิงเก็บเตียงบ้าง

เท่าที่สัมผัสเมย์ว่ารถไฟตู้นอน โบกี้สำหรับผู้หญิงและเด็ก ปลอดภัยมาก ก็ยังติดใจ และคงใช้บริการต่อไป 

หมายเหตุ : หากเดินทางพร้อมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป กรุณาอย่าคุยกันเยอะ เกรงใจเพื่อนร่วมโบกี้

สนใจเรื่องผิว สกินแคร์ การเงิน การเดินทาง การใช้ชีวิต และการจดบันทึก