ทดสอบสารแพ้ 32 รายการ ศูนย์โรคภูมิแพ้ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

ทดสอบสารแพ้ 32 รายการ ศูนย์โรคภูมิแพ้ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

แม้ว่าจะออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ (นอน 7-8 ชั่วโมง) กินอาหารดี ๆ มีอาหารเสริม แต่ร่างกายก็ป่วยบ่อยมาก ปวดหัว อ่อนเพลีย คั่นเนื้อคั่นตัวมีมาตลอด ส่วนอาการอาการคัดจมูกน้ำมูกไหล รวมถึงอาการคันเพดานปาก “มีทุกวัน” ป่วยบ่อยจน “งง”

กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่ติทักว่า “ลองไปตรวจหาสารที่เราแพ้ดูไหม บางทีอาจเป็นเพราะเราอาศัยอยู่กับสิ่งที่เราแพ้ทุกวัน เลยไม่ค่อยแข็งแรง” 

คุยเสร็จปุ๊บ ก็ Search เลย เจอข้อมูลแรกเป็นของ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ก็ตัดสินใจเลย

ติดต่อสอบถามและจองคิว

เมย์โทรไปสอบถามข้อมูลแล้วประทับใจ เพราะระหว่างคุยสัญญาณเบอร์ 1474 ขาดหาย (กำลังเดินอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดิน) ทางเจ้าหน้าที่ก็รีบใช้เบอร์ 02 ติดต่อเรากลับมาทันที

การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังโดยวิธีสะกิดของทางโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มีทั้งหมด 4 โปรแกรม

เมย์อยากตรวจแบบที่ 4 แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องพบแพทย์ก่อน ถึงจะรู้ได้ว่าควรตรวจอะไรบ้าง ควรนัดหมายก่อน และก่อนตรวจงดยาแก้แพ้อย่างน้อย 7 วัน โดยก่อนถึงวันนัดจะมีเจ้าหน้าที่โทรมาคอนเฟิร์มนัดอีกครั้ง

ศูนย์โรคภูมิแพ้

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ คือ ตึกใหญ่ ๆ สวย ๆ ใกล้กับโรงพยาบาลศิริราช (เดิม) ที่ใต้ตึกมีที่จอดรถเยอะมาก และค่าจอดก็แรงมากเช่นกัน

โรงพยาบาลมีขนาดใหญ่ โปร่ง โล่ง สะอาด สบาย แถมยังมีร้านค้าเยอะมาก นับแค่ร้านกาแฟตามทางเดินจากลานจอดรถไปถึงศูนย์โรคภูมิแพ้นะ Black Canyon – Starbucks – Mezzo แถมยังมีร้าน Au Bon Pain และร้านไอติม Baskin Robbins ด้วย

เมย์เพิ่งเคยมาใช้บริการด้านสุขภาพที่นี่เป็นครั้งแรก ต้องไปทำประวัติก่อน มีเจ้าหน้าที่ต้อนรับเยอะมาก แถมยังช่วยงานกันอย่างขยันขันแข็ง เช่น ขณะที่เรากำลังกรอกข้อมูล เจ้าหน้าที่คนนึงขอให้มองกล้องถ่ายรูป อีกคนถามอาการ อีกคนถามข้อมูลอีกอย่าง โอ้ยยย! สติฉัน ขวัญเอ๋ยขวัญมา

ศูนย์โรคภูมิแพ้ เดินขึ้นบันไดเลื่อนข้างร้าน Black Canyon ชั้น 2 เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ข้างในสุดนะ อย่าแวะยื่นที่เคาน์เตอร์แรกเหมือนเมย์ (เขินเลย)

ขั้นตอนการตรวจ

1. ยื่นใบทะเบียน

ยื่นใบทะเบียนให้เคาน์เตอร์ศูนย์โรคภูมิแพ้ กรอกข้อมูลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และวัดไข้ ทำให้รู้ว่าขนาดวันนี้ที่ร่าเริงสดใส ยังมีไข้อ่อน ๆ

2. พบแพทย์

นั่งรอที่หน้าห้องตรวจครู่เดียวก็ได้เข้าพบคุณหมอ วรวิชญ์ เหลืองเวชการ แล้ว อาจเป็นเพราะว่าเมย์นัดหมายไว้แล้วด้วยแหละ

คุณหมอถามอาการละเอียดมาก ตอบไปเยอะเหมือนกัน ทำให้ได้เห็นว่าตัวเองมีอาการค่อนข้างเยอะ เกือบเต็มหน้ากระดาษของคุณหมอเลย

คุณหมอบอกว่าอาการของเราเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ หมอจะให้ตรวจเฉพาะสารก่อภูมิแพ้ทางอากาศ เพราะเราไม่เคยทานอาหารแล้วแพ้จนหนาบวมหรือปากเจ่อ แต่มาตรวจแล้วก็เลยขอหมอตรวจครบทุกตัวเลย จะได้รู้ไปเลยทีเดียว

3. ทดสอบภูมิแพ้

ออกจากห้องหมอ พิมพ์บันทึกยังไม่ทันเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้าห้องตรวจแล้ว

ถอดเสื้อ (ไม่ต้องถอดชั้นใน) นอนคว่ำ และรวบผม เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะใช้ปากกาขีดที่หลังของเรา แบ่งเป็นช่อง จากนั้นก็หยดน้ำยาแต่ละชนิดลงบนช่อง ก่อนจะใช้เข็มสะกิดผิวหนังช่องละจิ๊ด

การสะกิดผิวหนัง ไม่ถึงกับเจ็บ แต่ก็ใช่ว่าไม่รู้สึก ใครอยากรู้ลองเอาปลายเข็มสะกิดผิวหนังของตัวเองดู สะกิดตื้น ๆ เลือดไม่ออก

หลังจากสะกิดเสร็จ ใช้ทิชชู่ซับน้ำยา สวมเสื้อ แล้วออกจากห้องตรวจพร้อมนาฬิกาจับเวลา (15 นาที) เจ้าหน้าที่บอกว่าจะมีอาการคันบ้าง บางจุด พยายามอย่าเกา ถ้าคันมาก ใช้มือลูบเบา ๆ ไปก่อน

15 นาทีผ่านไป เมย์รู้สึกคันแค่จุดเดียว ซึ่งน่าจะเป็นจุดของน้ำยาควบคุมที่ไว้ใช้เปรียบเทียบอาการแพ้ และพอถอดเสื้อเช็คผล หลังสะอาดมากค่า นอกจากจุดควบคุม ก็ไม่มีอาการแพ้แม้แต่จุดเดียว

ไม่มีอาการแพ้ที่เกิดจากอาการแพ้ทั้ง 32 จุด ซึ่งก็ครอบคลุมสาเหตุของอาการแพ้ 80-90% แล้วอาการที่เป็นอยู่ทุกวันนี้คืออะไร ?

4. พบแพทย์ฟังผล

สรุปคือ เมย์ไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้ค่ะ แต่เป็นโรคจมูกอักเสบเรื้อรัง ซึ่งมีการแสดงอาการคล้ายกัน แต่อันหลังไม่ได้มีสารใดเป็นตัวกระตุ้น

วิธีรักษาก็คล้ายกัน คือ ทานยาแก้แพ้ ล้างจมูก และใช้ยาพ่นจมูก

5. ล้างจมูก

เมย์ไม่เคยใช้ยาพ่นจมูก และก็ไม่แน่ใจว่าวิธีล้างจมูกที่เคยทำเป็นวิธีที่ถูกหรือเปล่า ทางเจ้าหน้าที่ก็เลยให้ดูคลิปสาธิตจากทางโรงพยาบาล ก่อนจะลองล้างจมูกเองอีกครั้ง (ง่ายกว่าที่เคยทำนิดนึง)

พยาบาลที่มาดูแลตอนล้างจมูกแนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวว่า ช่วงเป็นหวัด ให้ล้างจมูกบ่อย ๆ ทานวิตามินซี ดื่มน้ำเปล่าและนอนพักผ่อนเยอะ ๆ จะช่วยให้หายเร็วขึ้น โดยไม่ต้องทานยา

เมย์ก็เลยคิดว่าหนึ่งเดือนนี้จะล้างจมูกและพ่นยาเช้าเย็นตามที่หมอสั่ง กินวิตามินทุกวัน ดื่มน้ำและนอนเยอะ ๆ เพราะอยากหายจากอาการคัดจมูกซะที! และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากทานยาแก้แพ้บ่อย ๆ

ซึ่งหลังจากที่เปลี่ยนการรักษามาใช้วิธีล้างจมูกและพ่นยา แค่ไม่กี่วัน อาการคัดจมูกน้ำมูกไหลก็หายไปเลย โล่งจมูกมากด้วย

6. ชำระเงินและรับยา

ค่าบริการทั้งหมด 4,127 บาท เป็นค่ายา 837 บาท ค่าเวชภัณฑ์ 40 บาท ค่าตรวจ 2,400 บาท ค่าบริการพยาบาล 100 บาท ค่าบริการทางการแพทย์อื่น ๆ 150 บาท  และค่าคุณหมอ 600 บาท

โรงพยาบาลนี้ให้เอกสารเยอะมาก! ที่นับได้ตอนนี้ก็มีใบรับรองแพทย์ ผลการตรวจ ใบแนะนำการใช้ยา ใบเสร็จรับเงินที่มีการชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายดีมาก และเอกสารอธิบายการล้างจมูก

การตรวจทั้งหมดนี้ ใช้เวลาทั้งหมด 1-2 ชั่วโมง แถมยังรู้ผลทันที สะดวกมาก

** ระหว่างชำระเงิน อย่าลืมยื่นบัตรจอดรถให้เจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ จอดรถฟรีค่ะ 🙂


Disclaimer : No – Sponsored
Information : โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

สนใจเรื่องผิว สกินแคร์ การเงิน การเดินทาง การใช้ชีวิต และการจดบันทึก